วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

์NC ลิขิตรักดอกไม้งาม

ริมฝีปากหนักกดทับบดขยี้ ลุกเร้าไม่ปราณีริมฝีปากงามมือหนาที่กอดแน่นร่างบางลูบไล้ทรวดทรงสมใจกระหายอยากกลืนกินมาช้านาน ร่างบางที่โอบกอดที่สั่นไหวเบิกตากว้างหวาดกลัว มืองามที่สั่นจับปกเสื้อคลุมแน่นที่เปิดออก อกสั่นเหงื่อไหลออก แผงอกหล่อยกกระเพื่อมเร้าร้อนหายใจไม่ทัน  ริมฝีปากที่บดขยี้ลิ้นที่ไล่เลียอยากไล่เก็บทุกอนุ ทุกเนื้อหนัง น้ำลายที่ผสมปนเปกัน ลมหายใจที่แลกกันดุเดือด
“ อือ ” เสียร้องลำคอดออกไม้งาม ที่กำลังขาดอากาศหายใจจากโพลงปากที่ถูกรุกรานพยายามดันตัวออกห่างอยากหายใจ

แต่มันคงไม่มีทาง
เพราะในเมื่อมีโอกาสที่อยากรองมาช้านาน
มันจึงไม่ยอมพลาดหลุดอะไรออกไปอีก

มือที่ลูปคำดอกไม้ในอ้อมอก
มันล้วงลึกบีบคำบนผืนผ้า
มืออีกครั้งที่ไม่พลาดโอกาสได้กอดดอกไม้มา
ลูบลงมา จากเอวปั้นท้ายทรวดทรง
บีบลูบไร้ลงจุดเสี่ยวต้องการ
หลังงามแอ่นเชิดเมื่อจุดเสี่ยวแกนกายถูกลูบไล้ มือพยายามปลดพรรณนาการออกไปแต่ยิ่งปลดออกไปริมฝีปากกลับยิ่งรุกล่ำรุนแรง
“ อือ ” เสียงยังคงรางต้องการปลดปล่อย หากแต่เสียงน้อยกลับยิ่งอยากปลดเปื้อน  สองมือที่ลูบคำสมใจเร้าอารมณ์รวบร่างบางสวยทรงพื้นที่เตียง ไม่ทิ้งจังหวะปากที่ยังคลอเคลีย เร้าอารมณ์สุขสมในโพลงปาก ร่างงามที่อยู่ใต้ร่างใหญ่บนพื้นเตียง ในอ้อมกอดที่มือช้อนไชรุกล่ำ  หากแต่ตอนนี้มือที่ไม่หยุดยั่งเริ่มปลดเปื้อนเสื้อผ้าพันกายแม้ร่างงามกำลังจะขาดอากาศหายใจก็ตาม
เมื่อได้ครองจูบสมใจอยาก ก็ถอนออกมาอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากงามที่แดงเจ่อ อ้างปากค้างอกกระเพื่อมแทบขาดใจรีบสูดอากาศเข้าปอดในทัน ดวงตางามพิศมองผู้เชยชม ที่คร่อมมองดอกดมใต้เรือนกาย ด้วยสติที่แท้จริงเลือนหายประครองใบหน้าหอบปากค้างเหงื่อไหลบนผิวกาย พิศมองเพลิดเพลินสมใจกายมองลูบไล้ใบหน้าลง ลำคอระหง อย่างเบามือราวกับอยากประคบประหงมในตัวเหยื่อ ก่อนจะลูบไร้ไม่ปราณี
 ดอกไม้งามที่มองกลัวสั่นสะท้านรู้สึกสำนึกพลาดที่ทำไป เมื่อได้เห็นสันดานดิบที่เขาคงเหลือไว้ที่พิศมองลูบไร้ดอกไม้งามในกำมือ มือหนาเลื่อนลูบไล้จากใบหน้าลงลำคอเลื่อนขึ้นมาจากลำคอเหงื่อไหลสู่แผงอก ที่กระเพื่อมจนเผลอเม็ดบัวแดงสวยสดใช้นิ้วเขี่ยคลึงเม็ดบัวเพลินใจ  ดอกไม้งามแอ่นอกเสี่ยว ปากสั่นค้างเมื่อเม็ดยอดถูกเขี่ยเล่นบนเรือนร่างเอยเรียกสติ ผู้กำลังเล่นกับเรือนร่างแหบพราก มองใบหน้าสติหลุด อ้าปากค้างสนุกหื่นอารมณ์
“ ทะ ท่านแม่ทัพ ”  เมื่อเสียงแหบพรากชวนฟังเอยเรียก สายตาเผลอขึ้นมองหาเสียงเรียกใต้เรือนกาย เมื่อเห็นใบหน้าที่ยั่วยวนใต้เรือนกาย มืออีกข้างก็ลูบไรผมเปื้อนเหงื่ออย่างเบามือ

“ ท่านแม่ทัพ ”

“ ชั่งน่าฟังเหลือเกิน ”  สองสายตาประสานกัน หนึ่งในนั้นไม่รู้รับอะไรทั้งนั้น  อีกหนึ่งนั้นใจสั่นหวาดกลัวหวั่นเกรง

“ ท่านแม่ทัพ ”
ยิ่งเรียกยิ่งกระตุ้น
ยิ่งอยากรุกเสียดแทรกเข้าร่างกาย
ยิ่งอยากฟังเสียงเรียกแทบใจหาย
ยิ่งขาดซึ้งลึกสติ


“ ดอกไม้ของข้า ” แล้วอกงามก็แอ่นขึ้นเสี่ยวซ่า ราวกับว่าแอ่นรับให้เขาเลียอย่างยินดี


“ ฮะ !” เมื่อสิ้นเอยคำเรียกสั่นสะท้าน อกงามตาก็ถูกไล่เลียอย่างบ้าคั่ง สองมือลูบอกงามเม็ดบัวตั้ง เสื้อคุมที่ปลดเปื้อนหลุดเลื่อนให้เห็นอกงามตามแรงมือราวยินดี ลิ้นเลียดูดึงเม็ดบัวราวหิวนม สองมือกลับมาลูบทรวดทรงปลดเปื้อนชุดผ้าสวมใส่งามดีเลิศถูกปลดเปื้อนเหมือนถูกฉีกกระชาก
ดอกไม้งามที่ทำได้แค่แอ่นอกยินดีรับ อ้าปากสั่นเสี่ยวซีดทราบซ่ามืองามที่พยายามผลัก ร่างเหนือกายาหากแต่หมดเรี่ยวแรงจนจิกบ่าใหญ่แน่น
เสื้อผ้าถูกปลดเปื้อนฉีกกระฉากตามทางลิ้นที่ ลิ้นเลียเริ่มจากยอดอก ลงสู่หน้าท้องเนียนเรียบผิวสวยสดเลียจูบทุกอนุ ทุกยองใย ให้ถึงใจเก็บกระหายมาช้านาน หน้าท้องเนียเรียบหดเกรงเสี่ยวซ่าตามทางลิ้นจากใต้อกเลียลิ้นถึงสะดือ
“ ยะ….อย่า! ”และเลื่อนเลียทางยาวถึงแกนงามที่บัดนี้ตั้งตรงไม่เคยเป็น ร่างสูงที่มองแกนงามชูตั้งสวยราวเกสรที่ชี้สวยจากดอกไม้พร้อมผสมพันธุ์ออกดอกใหม่ผลิใบกาย สดใหม่ไม่เคยถูกลิ่มรองของมัน หากแต่วันนี้มันจะถูกรองด้วยลิ้นยาวจากดาบใหญ่ ที่ไล่จูบเลียจากโคนสุดอย่างชอบใจสู่จุดยอดสุดของแกนสวยที่ชูตั้ง แล้วจับการใช้ลิ้นรวบแกนกายที่ตั้งชูชันรวบรับมันเขาสู๋โพลงปากจุดสำคัญอยากต้องการ มือดอกงามจิกลงผมยาวแดงไม่มีแรงแต่ไม่อาจหยุดกระทำได้ มันทั้งอาย ทั้งเกียจตัวเอง


และรู้สึกดี
น้ำลายในโพลงปาก สากลิ้นยาวที่เลียรากจากโคนสู่ยอดรากแกนชูตรงรู้สึกดี ลมหายใจที่กระเพื่อมแรงดูดดึงอยากดูดรวดเร็วลึกกระหาย กระพุ่งแก้มเหงื่อที่ครอบอมแกนกาย ริมฝีปากบางที่จูบลง มันน่าสงสัยพิกลทำไมแกนกายงามถูกรับรู้สัมพันธ์ได้รู้สึกดี
โพลงปากที่ยังคงดูดอมรูดขึ้นลงแกนดอกไม้งามสัมผัสได้มันเสี่ยวทุกจังหวะรูดขึ้นลงน้ำลาย จิกผมชายแดงสีชาดกวางหวางขาและแล้วน้ำลักแตกสุดอารมณ์
“ อ๊า! ” เสียงคางที่ยังคงสั่นพล่า เมื่อลิ้นลากไล่ดูดเก็บน้ำลักรายละเอียด ที่ไหลลงเป็นเส้นทางให้ลิ้นเลียไหลยาวเลียถึงทางรักที่หดเกร็ง ที่รอรับแกนกายที่กำลังเพิ่มความร้อนความขุกรุ่น 
หากว่ามองว่าเสร็จกิจ ก็ขอบอกว่าพึ่งเตรียมร่างกายเพิ่มความร้อนต่อจากนี้ต่างหากที่ความกามรมหื่นสุขสมจะถูกปล่อยมาอย่างเติมที่
และดอกไม้ที่สวยศรีก็จะเปื้อนมลทินอย่างแท้
และเขาก็จะกลายเป็นดอกไม้ตลอดไป
จริงหรือจะเป็นของดอกไม้ตลอดไป ไม่ใช่ว่าจะทำให้ดอกไม้นี่โรยรินลงก่อนกันแน่
ในที่สุดร่างสูงก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งมอง พักเลือดกบปากน่าสงสาร มือใหญ่แตะน้ำเลือดนวลงามพิศข้างไม่อาจกล้าสบตาเขาได้ลง
“ ช่างน่ายั่วยวน ”เหตุใดเลือดที่กลบปากชั่วยั่วยวน มือใหญ่ที่แตะน้ำเลือดของดอกไม้ดูชิมรสหวานจากปลายนิ้วสุดหรรษาในขนาดที่ดอกไม้งามที่หันกลับมา มองใบหน้าที่สุขอารมณ์ด้วยตกใจใน ความสุขสมที่เขาคนนี้ยังไม่พออีกหรือ

ดอกไม้เจ้าเดาไม่ออกหรือว่ามันยังไม่เริ่มต้น

ช่างไร้เดียงสาเสียจริง

มือที่ดูดลิ้มรองเลือดแลเอยเสียงเรียบที่ว่างเปล่าจิตใต้สำนึกของความถูกต้องและเรื่องราว มองหน้าเจ้าของเลือดบนใต้เรือนกายด้วยสายตาที่ว่างเปล่า มันดีใจที่ทุกอย่างในเรื่องราวไม่ใช่เรื่องเล่าเพียงในฝัน แต่เป็นเรื่องจริงที่หรรษา ก่อนจะเอยประโยคก่อนจะเอยประโยคว่างเปล่าออกมาเล่นเอาคนฟังใจหวิวกระตุกวูบ

“ ในเมื่อเจ้าเลือกจะตกต่ำมาหาข้า
ข้าก็จะขอตกต่ำตามเจ้าด้วย
จะสัมผัสตัวเจ้าให้ทั่ว
จะยอมชั่วเป็นของเจ้า ”

“ นี่เขาเป็นแบบนั้น เพราะฤทธิ์ยาจริงอย่างนั้นหรือ  ”    ร่างงามใต้ร่างใหญ่ฟังคำพูดมองใบหน้าร่างใหญ่ที่ว่างเปล่าใจสติ ใจมันกระตุกวูบละคนสงสัยว่าคำพูดที่เอยออกไป มันเป็นเพราะฤทธิ์ยาจริงๆอย่างนั้นหรือ หรือว่ามันเป็นจิตใจสำนึกที่เรียกหาแต่ไม่อาจจะได้มีมาเลยทำได้แค่ข่มอารมณ์เก็บใจ แต่มันก็ยิ่งไม่เข้าใจ เข้าไปใหญ่ ว่าเหตุใดใจหนอที่ฟังคำพูดนั้นกลับรู้สึกตรึงตรา ตรึงใจเหมือนเฝ้ารอ อยากได้ฟังเอือนคำเอยแบบนี้มาเนินนาน

ใจกระตุ้นถูกบีบเปิดด้วยฤทธิ์ยา
หาได้ใช้ฤทธิ์ยาแทรกซ้อนสั่งพูดไม่
ใจมันยากจะพยายามบีบปิดตัวเองไว้
ใจมันร้องแต่อยากได้เหิมเกริม

เมื่อสองสายตาส่งความรู้สึกร่างดูดดึงปลดเปลื้องเสื้อผ้า ถึงเวลาของร่างใหญ่ที่บัดนี้ยอมใจหยาบช้าเปลี่ยนเสื้อปลดเปลื้องหมดทุกสิ่ง ปลดทั้งกายมอบถวายแลกชีวี ปลดทั้งศักดิ์ศรีมอบถวายแลกสอดเสียด
เสื้อคุมที่ไหลออกปลดเปลื้อง
เพยกล้ามเนื้อร่างกายเล่าเรื่อง
มือที่เผลอเลื่อนลูบไล้เนื้อเรื่อง
อ่านหนังสือเรื่องเล่าใจบนกายมนุษย์

“ ร่างกายเขาแผลเติมไปหมด ”
เสื้อคุมที่ถูกถอดออกเผยผิวกายที่ขาวผ่องแม้มีรอยแผลเป็นที่เป็นเหมือนเครื่องประดับบนเรือนกายรอยแผลเส้นแนวยาวหลายจุดบางจุดนั้นยาวเกินหนึ่งฝ่ามือหากแต่ร่างงามคงไม่เห็นด้านหลังที่ปลดเปื้อนว่านอกจากมีรอยแผลเป็นเครื่องประดับเล่าเรื่องยังมีรอยเขียนสื่อรูปมังกรอยู่ด้านหลังอันหมายถึงจักรพรรดิยิ่งใหญ่นั้นอยู่ข้างกายเป็นกำลังให้เป็นราชันที่ยอดถวายชีวิตให้
รอยแผลที่เรื่องราวมากเรื่องแต่ละเรื่องบนเรือนกายบ่งบอกถึงความอุสาหมากมาย กว่าจะมาถึงจุดสู.สุดของตำแหน่งชายชาติทหาร
ดวงตางามยังคงสัมผัสผิวงามเก็บรายละเอียด บนแผลเป็นใหญ่กล้ามเนื้ออกซ้ายจุดสำคัญของรางกาย


มันน่าแปลกที่รู้สึกเจ็บอกซ้ายตามไปด้วย

ในขนาดที่มืองามยังหลงมือสัมผัสบาดแผลก็ถูกมือใหญ่กุมมือแน่นจุดสัมผัสบนร่างกายแล้วรวบสองมือกลีบดอกไม้ขึ้นเหนือหัว หัวใจกลีบดวงน้อยอยากหนีสั่นระรัว แต่ก็ถูกถาโถมทับปิดทางตาย

ได้เวลาแสดงผลฤทธิ์ยาที่แท้จริง
ตามใจเจ้าดอกไม้ที่โรยรินต้องการ
กับคนสิ้นสติวิธีการ
มันไม่มากคิดเรื่องการกระทำ

สองสายตาร่างกายใกล้ชิดชัดเจน มือหนึ่งไม่ปล่อยให้ว่างเว้นจับขาแยกร่างลูบสัมผัสรูปโค้งก้นงอนงามเหมือนปลอบร่างกายให้พร้อมกายรูดขึ้นถึงขาอ่อนเกรงกายก่อนจะลงน้ำหนักแน่นเหมือนหาที่ยึดเหนี่ยว ริมีปากที่ลงจูบอีกครั้งใต้เรือนกาย ก่อนที่มือที่หาที่ยึดเหนี่ยวร่างกายจะจับแกนกาย เข้าสอดแทรกกระแทกไม่ยั่งมือ กับขนาดแกนกายใหญ่ที่ลุกฮือเล่นเอาดอกไม้อ้าปากเจ็บแทบขาดใจสั่นค้าง วิญญาณอกแอ่นแทบออกจากร่างเม็ดบัวชูตรงแข็งงามมันรู้สึกเหมือนถูกฉีกร่างเป็นสองส่วน
“ ฮ๊ะ! ” เสียงหลงที่เอยค้างเล่นเอาคำฟังตามค้างอยากฟังเสียงคาให้ชัดมากกว่านี้ ในขนาดคนที่อกแอ่นนอนแยกร่างตอนนี้น้ำตาไหลพรากสั่นค้างเจ็บปวด ชั่งแตกต่างจากคนด้านบนสุดโต้งที่มีความสุขมองร่างบางสุขสม เหมือนชอบใจเสียความเจ็บกามรม อยากฟังมากกว่านี้แล้ว มากกว่านี้อีกและเพื่อเติมเต็มความสุขสมก็ต้องกรแกให้แรงมิดให้จม ถึงจะได้ยินโยมเสียงงดงาม
“ อ๊ะ!......อ้า...........อ้า.............. ” ร่างงามที่ร้องเสียงหลงตามแรงกระแทก พยายามกัดริมฝีปากแน่นเก็บเสียงแทบไม่อยู่เมื่อแกนกายแท่งใหญ่ที่ขยับแน่นอยู่ในโพลงของร่างกายขยับแรงกายไม่ปราณี
จังหวะกระแทกมันหนัก
มันเจ็บทุกครั้งบาดลึก
เมื่อถูกกระแทกเข้าสุดลึก
มันเจ็บสุดลึกแทบขาดใจ

สตินั้นไม่รับรู้อะไรอีก แม้น้ำตาดอกไม้จะไหลหนักแม้เลือดร่างกายจะไหลทะลัก แต่เขานั้นก็ไม่รู้อะไรแล้วนอกจากร่างกายที่สุขสมและอยากฟังเสียงร้องคาระงมของร่างงามดอกไม้ระหงส์ ที่พยายามกัดปากแน่นหลั่งเลือดเก็บเสียงตนก็ไม่อาจทนเก็บจากแรงกระแทกหนักของแกนกาย

“ อึก!..........อ๊ะ.........อ๊า......... อ้าๆๆๆ......

ร่างงามที่แสนทรมานเจ็บปวดทั้งกายและใจ ทนให้เขากระแทกไปหวังอยากได้ข้อผูกมัดซึ้งอำนาจ แม้ร่างกายต้องแยกร่างก็ต้องยอม เพราะไม่มีข้อต่อรองที่สมตัวสมราคา

ดอกไม้เอยเจ็บไหมให้เขากระแทก เพื่อแลกอำนาจยิ่งใหญ่ในฟ้า เพื่อให้มีแขนขาพักดีข้างกายา เพื่อใช้บ่งการในใจตน
“ อ๊ะ!

เก็บสิ เก็บเสียงให้อยู่เก็บให้มิด แล้วจงจับสลักไว้ในจิต ว่าความโหดร้ายในอำนาจที่ใช้ร่างกายไขว้คว้าด้วยร่างมันเป็นเช่นไรแล้วจงอย่าลืม
ดอกไม้งามที่ยังคงรับแรงกระแทกต่อไป ริมฝีปากที่กัดเก็บเสียงไว้เลือดไหลออกไม่หยุดพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อไหลจากความรู้สึกเจ็บสุด และช่องทางลักที่เลือดไหลติดแกนกายที่เข้าออกแสบสันเจ็บปวด ทั้งน้ำลักน้ำเลือดตีผสมสองเนื้อกระพือร่วมสร้างจังหวะเพิ่มแรงกระแทกเข้าไปอีกนั้น ดอกไม้งามนอนอ้าขาแยกเขย่าตามจังหวะที่สอดแทรกเจ็บแทบสติหลุด
“ ปี๊บปี๊บ……ปี๊บ………อ๊ะ!………อ๊ะ…………เจ็บ……………เจ็บ…………………. ” เสียงที่ไม่อาจทนเก็บไว้กับร่างกาย หากแต่อยากร้องระบายก็กลัวใครจะได้ยิน แต่มันก็เริ่มเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว มือที่รวบอยู่เหนือหัวถูกกำแน่นเหมือนมันแทนโซคล้องมือเหมือนกลัวหาย แต่ในขนาดก็สุขสมร่างกายจนต้องระบายเสียงคั่งนั้นอออกมา
“ อ๊า ซี๊ด อ๊า อ๊า ”  ใบหน้าเชิด แกนกายขยับ ยิ้มออกมา ขยับหลับตาเก็บเกี่ยวความรู้สึก และเพิ่มจังหวะลึกขยับกายหนักมากกว่าเดิม
“ อ๊า!

อ้าว เก็บเสียงไว้สิดอกไม้

เก็บให้ได้เก็บอยู่อย่าเล็ดลอด
อดทนให้เขารวบเอวกระแทกรอด
แล้งชีวิตเจ้าจะรอดเอง

จงอดทนความอับยศอีนิดเถิด แล้วเจ้าจะได้ครอบครองหนามแหลมพุ่มดอกไม้เพิ่มอย่างที่ใจเจ้าต้องการ

ในที่สุดแรงกระแทกที่เพิ่มจังหวะแล้วจังหวะอีกให้กับร่างที่อ้าขาแยกที่ถูกเขย่าแรงเติมกำลังสุดฤทธิ์ ในที่สุดก็ถึงขีดสุดฤทธิ์ หากแต่ยิ่งสุดฤทธิ์แรงยิ่งมากเพิ่มขึ้นทวีแล้วกระแทกหนักอีกทีเหมือนทิ้งทวนก่อนจากไป จนเสียงที่เก็บไว้กลั้นไว้ไม่อู่แล้ว
“ อือ ” ดวงตาเบิกอีกครั้ง
“ ซี๊ด อ่า ” ใบหน้าที่เชิดยิ้มยัก
“ อิ๊ด ……อ๊ะ………อ๊ะ ” อารมณ์ที่เก็บไม่ได้แล้วนั้นร้องผสม อือ อ๊า สุขสมเจ็บปวด
“ ซี๊ด อ่า อ่า ”
“ อ๊ะ………๊ะๆ……เจ็บ………อ๊ะๆ……ไม่ ”  บอกแล้วไงให้เก็บเสียงไปสิ จะร้องออกมาทำไม แล้วบอกเขาได้อะไรเจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือดอกไม้ว่าเขาไม่ได้ยิน แม้แต่น้ำตาเจ้าเขาเองก็ไม่เห็นแล้ว
ปี๊บๆ เสียงเนื้อกระทบดังชัด
“ อ้า ”
“ ฮ๊ะ!

และในที่สุดแรงกระแทกสุดท้ายก็มาถึงสองจังหวะ สองร่าง สองเสียงประสา อ้า อือ ความหมายต่างสุดลึก หลั่งน้ำลักพร้อมกันความหมายต่างลึก
คือน้ำหนึ่งไหลหลั่งเจ็บปวดเพื่ออำนาจ ส่วนอีกน้ำที่หลั่งล้นช่องทางสอดแกนกายนั้นหลั่งล้นเยอะออกมานั้น สุขสมจิตใจเหลือเกิน
“ ซี๊ด!
“ อ๊ะ ”
“ อ่า/อ่า ” ปากค้างสองชายพร้อมกาย แกนเกสรดอกไม้หลั่งสารตั้งตรงชูสุดอาการก่อนจะหอตัวเก็บลง ในขนาดที่อีกคนก็ล้มพับหมดแรง ซบอกเม็ดบัวงามอกกระเพื่อมเจ็บปวด พร้อมกับสิ้นสติปิดหมวด หมดสิ้นฤทธิ์ยากำลัง  และทิ้งอนุสรณ์แกนกายหดหมดนั้นไว้เป็นเครื่องเตือนใจความเจ็บปวดที่ผ่านและย้ำในสำนึกว่า

เจ้าเป็นของข้าแล้ว
เหมือนมันอยากจะเกี่ยวไว้ไม่อยากให้ดอกไม้หายไปไหน อยากตื่นร่วมกันไปและร่วมกันขยับร่างด้วยไซร์อีกครั้งหนึ่ง

“ ในที่สุดเขาก็เป็นของข้า ”

ริมฝีปากกลบเลือดเสาะยิ้มเปื้อนน้ำตาโรยรินใส ประคองกอดมือที่รวบคายไปยังอ้าคงรับร่างใหญ่ทับร่างกาย
“ หึ ”
หัวเราะเสียงในลำคอสมเพชตัวหนองรับร่าง เหมือนเด็กที่ดีใจน้ำตาไหลพรากได้รับตุ๊กตาของขวัญใหญ่มาในออมกอดชั่วข้ามคืน
เหมือนของขวัญที่สวรรค์มอบให้ไม่อาจคืน และต้องยืนพรมจารีเข้าแลก