ริมฝีปากหนักกดทับบดขยี้
ลุกเร้าไม่ปราณีริมฝีปากงามมือหนาที่กอดแน่นร่างบางลูบไล้ทรวดทรงสมใจกระหายอยากกลืนกินมาช้านาน
ร่างบางที่โอบกอดที่สั่นไหวเบิกตากว้างหวาดกลัว มืองามที่สั่นจับปกเสื้อคลุมแน่นที่เปิดออก
อกสั่นเหงื่อไหลออก แผงอกหล่อยกกระเพื่อมเร้าร้อนหายใจไม่ทัน
ริมฝีปากที่บดขยี้ลิ้นที่ไล่เลียอยากไล่เก็บทุกอนุ ทุกเนื้อหนัง
น้ำลายที่ผสมปนเปกัน ลมหายใจที่แลกกันดุเดือด
“ อือ ” เสียร้องลำคอดออกไม้งาม
ที่กำลังขาดอากาศหายใจจากโพลงปากที่ถูกรุกรานพยายามดันตัวออกห่างอยากหายใจ
แต่มันคงไม่มีทาง
เพราะในเมื่อมีโอกาสที่อยากรองมาช้านาน
มันจึงไม่ยอมพลาดหลุดอะไรออกไปอีก
มือที่ลูปคำดอกไม้ในอ้อมอก
มันล้วงลึกบีบคำบนผืนผ้า
มืออีกครั้งที่ไม่พลาดโอกาสได้กอดดอกไม้มา
ลูบลงมา จากเอวปั้นท้ายทรวดทรง
บีบลูบไร้ลงจุดเสี่ยวต้องการ
หลังงามแอ่นเชิดเมื่อจุดเสี่ยวแกนกายถูกลูบไล้
มือพยายามปลดพรรณนาการออกไปแต่ยิ่งปลดออกไปริมฝีปากกลับยิ่งรุกล่ำรุนแรง
“ อือ ” เสียงยังคงรางต้องการปลดปล่อย
หากแต่เสียงน้อยกลับยิ่งอยากปลดเปื้อน
สองมือที่ลูบคำสมใจเร้าอารมณ์รวบร่างบางสวยทรงพื้นที่เตียง
ไม่ทิ้งจังหวะปากที่ยังคลอเคลีย เร้าอารมณ์สุขสมในโพลงปาก
ร่างงามที่อยู่ใต้ร่างใหญ่บนพื้นเตียง ในอ้อมกอดที่มือช้อนไชรุกล่ำ
หากแต่ตอนนี้มือที่ไม่หยุดยั่งเริ่มปลดเปื้อนเสื้อผ้าพันกายแม้ร่างงามกำลังจะขาดอากาศหายใจก็ตาม
เมื่อได้ครองจูบสมใจอยาก
ก็ถอนออกมาอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากงามที่แดงเจ่อ
อ้างปากค้างอกกระเพื่อมแทบขาดใจรีบสูดอากาศเข้าปอดในทัน ดวงตางามพิศมองผู้เชยชม
ที่คร่อมมองดอกดมใต้เรือนกาย ด้วยสติที่แท้จริงเลือนหายประครองใบหน้าหอบปากค้างเหงื่อไหลบนผิวกาย
พิศมองเพลิดเพลินสมใจกายมองลูบไล้ใบหน้าลง ลำคอระหง
อย่างเบามือราวกับอยากประคบประหงมในตัวเหยื่อ ก่อนจะลูบไร้ไม่ปราณี
ดอกไม้งามที่มองกลัวสั่นสะท้านรู้สึกสำนึกพลาดที่ทำไป
เมื่อได้เห็นสันดานดิบที่เขาคงเหลือไว้ที่พิศมองลูบไร้ดอกไม้งามในกำมือ
มือหนาเลื่อนลูบไล้จากใบหน้าลงลำคอเลื่อนขึ้นมาจากลำคอเหงื่อไหลสู่แผงอก
ที่กระเพื่อมจนเผลอเม็ดบัวแดงสวยสดใช้นิ้วเขี่ยคลึงเม็ดบัวเพลินใจ ดอกไม้งามแอ่นอกเสี่ยว
ปากสั่นค้างเมื่อเม็ดยอดถูกเขี่ยเล่นบนเรือนร่างเอยเรียกสติ
ผู้กำลังเล่นกับเรือนร่างแหบพราก มองใบหน้าสติหลุด อ้าปากค้างสนุกหื่นอารมณ์
“ ทะ ท่านแม่ทัพ ” เมื่อเสียงแหบพรากชวนฟังเอยเรียก
สายตาเผลอขึ้นมองหาเสียงเรียกใต้เรือนกาย เมื่อเห็นใบหน้าที่ยั่วยวนใต้เรือนกาย
มืออีกข้างก็ลูบไรผมเปื้อนเหงื่ออย่างเบามือ
“ ท่านแม่ทัพ ”
“ ชั่งน่าฟังเหลือเกิน ” สองสายตาประสานกัน
หนึ่งในนั้นไม่รู้รับอะไรทั้งนั้น อีกหนึ่งนั้นใจสั่นหวาดกลัวหวั่นเกรง
“ ท่านแม่ทัพ ”
ยิ่งเรียกยิ่งกระตุ้น
ยิ่งอยากรุกเสียดแทรกเข้าร่างกาย
ยิ่งอยากฟังเสียงเรียกแทบใจหาย
ยิ่งขาดซึ้งลึกสติ
“ ดอกไม้ของข้า ” แล้วอกงามก็แอ่นขึ้นเสี่ยวซ่า
ราวกับว่าแอ่นรับให้เขาเลียอย่างยินดี
“ ฮะ !” เมื่อสิ้นเอยคำเรียกสั่นสะท้าน
อกงามตาก็ถูกไล่เลียอย่างบ้าคั่ง สองมือลูบอกงามเม็ดบัวตั้ง
เสื้อคุมที่ปลดเปื้อนหลุดเลื่อนให้เห็นอกงามตามแรงมือราวยินดี ลิ้นเลียดูดึงเม็ดบัวราวหิวนม
สองมือกลับมาลูบทรวดทรงปลดเปื้อนชุดผ้าสวมใส่งามดีเลิศถูกปลดเปื้อนเหมือนถูกฉีกกระชาก
ดอกไม้งามที่ทำได้แค่แอ่นอกยินดีรับ
อ้าปากสั่นเสี่ยวซีดทราบซ่ามืองามที่พยายามผลัก ร่างเหนือกายาหากแต่หมดเรี่ยวแรงจนจิกบ่าใหญ่แน่น
เสื้อผ้าถูกปลดเปื้อนฉีกกระฉากตามทางลิ้นที่
ลิ้นเลียเริ่มจากยอดอก ลงสู่หน้าท้องเนียนเรียบผิวสวยสดเลียจูบทุกอนุ ทุกยองใย
ให้ถึงใจเก็บกระหายมาช้านาน
หน้าท้องเนียเรียบหดเกรงเสี่ยวซ่าตามทางลิ้นจากใต้อกเลียลิ้นถึงสะดือ
“ ยะ….อย่า! ”และเลื่อนเลียทางยาวถึงแกนงามที่บัดนี้ตั้งตรงไม่เคยเป็น
ร่างสูงที่มองแกนงามชูตั้งสวยราวเกสรที่ชี้สวยจากดอกไม้พร้อมผสมพันธุ์ออกดอกใหม่ผลิใบกาย
สดใหม่ไม่เคยถูกลิ่มรองของมัน หากแต่วันนี้มันจะถูกรองด้วยลิ้นยาวจากดาบใหญ่
ที่ไล่จูบเลียจากโคนสุดอย่างชอบใจสู่จุดยอดสุดของแกนสวยที่ชูตั้ง
แล้วจับการใช้ลิ้นรวบแกนกายที่ตั้งชูชันรวบรับมันเขาสู๋โพลงปากจุดสำคัญอยากต้องการ
มือดอกงามจิกลงผมยาวแดงไม่มีแรงแต่ไม่อาจหยุดกระทำได้ มันทั้งอาย ทั้งเกียจตัวเอง
และรู้สึกดี
น้ำลายในโพลงปาก
สากลิ้นยาวที่เลียรากจากโคนสู่ยอดรากแกนชูตรงรู้สึกดี
ลมหายใจที่กระเพื่อมแรงดูดดึงอยากดูดรวดเร็วลึกกระหาย
กระพุ่งแก้มเหงื่อที่ครอบอมแกนกาย ริมฝีปากบางที่จูบลง
มันน่าสงสัยพิกลทำไมแกนกายงามถูกรับรู้สัมพันธ์ได้รู้สึกดี
โพลงปากที่ยังคงดูดอมรูดขึ้นลงแกนดอกไม้งามสัมผัสได้มันเสี่ยวทุกจังหวะรูดขึ้นลงน้ำลาย
จิกผมชายแดงสีชาดกวางหวางขาและแล้วน้ำลักแตกสุดอารมณ์
“ อ๊า! ” เสียงคางที่ยังคงสั่นพล่า
เมื่อลิ้นลากไล่ดูดเก็บน้ำลักรายละเอียด ที่ไหลลงเป็นเส้นทางให้ลิ้นเลียไหลยาวเลียถึงทางรักที่หดเกร็ง
ที่รอรับแกนกายที่กำลังเพิ่มความร้อนความขุกรุ่น
หากว่ามองว่าเสร็จกิจ
ก็ขอบอกว่าพึ่งเตรียมร่างกายเพิ่มความร้อนต่อจากนี้ต่างหากที่ความกามรมหื่นสุขสมจะถูกปล่อยมาอย่างเติมที่
และดอกไม้ที่สวยศรีก็จะเปื้อนมลทินอย่างแท้
และเขาก็จะกลายเป็นดอกไม้ตลอดไป
จริงหรือจะเป็นของดอกไม้ตลอดไป
ไม่ใช่ว่าจะทำให้ดอกไม้นี่โรยรินลงก่อนกันแน่
ในที่สุดร่างสูงก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งมอง พักเลือดกบปากน่าสงสาร
มือใหญ่แตะน้ำเลือดนวลงามพิศข้างไม่อาจกล้าสบตาเขาได้ลง
“ ช่างน่ายั่วยวน
”เหตุใดเลือดที่กลบปากชั่วยั่วยวน มือใหญ่ที่แตะน้ำเลือดของดอกไม้ดูชิมรสหวานจากปลายนิ้วสุดหรรษาในขนาดที่ดอกไม้งามที่หันกลับมา
มองใบหน้าที่สุขอารมณ์ด้วยตกใจใน ความสุขสมที่เขาคนนี้ยังไม่พออีกหรือ
ดอกไม้เจ้าเดาไม่ออกหรือว่ามันยังไม่เริ่มต้น
ช่างไร้เดียงสาเสียจริง
มือที่ดูดลิ้มรองเลือดแลเอยเสียงเรียบที่ว่างเปล่าจิตใต้สำนึกของความถูกต้องและเรื่องราว
มองหน้าเจ้าของเลือดบนใต้เรือนกายด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
มันดีใจที่ทุกอย่างในเรื่องราวไม่ใช่เรื่องเล่าเพียงในฝัน
แต่เป็นเรื่องจริงที่หรรษา
ก่อนจะเอยประโยคก่อนจะเอยประโยคว่างเปล่าออกมาเล่นเอาคนฟังใจหวิวกระตุกวูบ
“ ในเมื่อเจ้าเลือกจะตกต่ำมาหาข้า
ข้าก็จะขอตกต่ำตามเจ้าด้วย
จะสัมผัสตัวเจ้าให้ทั่ว
จะยอมชั่วเป็นของเจ้า ”
“
นี่เขาเป็นแบบนั้น เพราะฤทธิ์ยาจริงอย่างนั้นหรือ
” ร่างงามใต้ร่างใหญ่ฟังคำพูดมองใบหน้าร่างใหญ่ที่ว่างเปล่าใจสติ
ใจมันกระตุกวูบละคนสงสัยว่าคำพูดที่เอยออกไป
มันเป็นเพราะฤทธิ์ยาจริงๆอย่างนั้นหรือ
หรือว่ามันเป็นจิตใจสำนึกที่เรียกหาแต่ไม่อาจจะได้มีมาเลยทำได้แค่ข่มอารมณ์เก็บใจ
แต่มันก็ยิ่งไม่เข้าใจ เข้าไปใหญ่ ว่าเหตุใดใจหนอที่ฟังคำพูดนั้นกลับรู้สึกตรึงตรา
ตรึงใจเหมือนเฝ้ารอ อยากได้ฟังเอือนคำเอยแบบนี้มาเนินนาน
ใจกระตุ้นถูกบีบเปิดด้วยฤทธิ์ยา
หาได้ใช้ฤทธิ์ยาแทรกซ้อนสั่งพูดไม่
ใจมันยากจะพยายามบีบปิดตัวเองไว้
ใจมันร้องแต่อยากได้เหิมเกริม
เมื่อสองสายตาส่งความรู้สึกร่างดูดดึงปลดเปลื้องเสื้อผ้า
ถึงเวลาของร่างใหญ่ที่บัดนี้ยอมใจหยาบช้าเปลี่ยนเสื้อปลดเปลื้องหมดทุกสิ่ง
ปลดทั้งกายมอบถวายแลกชีวี ปลดทั้งศักดิ์ศรีมอบถวายแลกสอดเสียด
เสื้อคุมที่ไหลออกปลดเปลื้อง
เพยกล้ามเนื้อร่างกายเล่าเรื่อง
มือที่เผลอเลื่อนลูบไล้เนื้อเรื่อง
อ่านหนังสือเรื่องเล่าใจบนกายมนุษย์
“ ร่างกายเขาแผลเติมไปหมด ”
เสื้อคุมที่ถูกถอดออกเผยผิวกายที่ขาวผ่องแม้มีรอยแผลเป็นที่เป็นเหมือนเครื่องประดับบนเรือนกายรอยแผลเส้นแนวยาวหลายจุดบางจุดนั้นยาวเกินหนึ่งฝ่ามือหากแต่ร่างงามคงไม่เห็นด้านหลังที่ปลดเปื้อนว่านอกจากมีรอยแผลเป็นเครื่องประดับเล่าเรื่องยังมีรอยเขียนสื่อรูปมังกรอยู่ด้านหลังอันหมายถึงจักรพรรดิยิ่งใหญ่นั้นอยู่ข้างกายเป็นกำลังให้เป็นราชันที่ยอดถวายชีวิตให้
รอยแผลที่เรื่องราวมากเรื่องแต่ละเรื่องบนเรือนกายบ่งบอกถึงความอุสาหมากมาย
กว่าจะมาถึงจุดสู.สุดของตำแหน่งชายชาติทหาร
ดวงตางามยังคงสัมผัสผิวงามเก็บรายละเอียด
บนแผลเป็นใหญ่กล้ามเนื้ออกซ้ายจุดสำคัญของรางกาย
มันน่าแปลกที่รู้สึกเจ็บอกซ้ายตามไปด้วย
ในขนาดที่มืองามยังหลงมือสัมผัสบาดแผลก็ถูกมือใหญ่กุมมือแน่นจุดสัมผัสบนร่างกายแล้วรวบสองมือกลีบดอกไม้ขึ้นเหนือหัว
หัวใจกลีบดวงน้อยอยากหนีสั่นระรัว แต่ก็ถูกถาโถมทับปิดทางตาย
ได้เวลาแสดงผลฤทธิ์ยาที่แท้จริง
ตามใจเจ้าดอกไม้ที่โรยรินต้องการ
กับคนสิ้นสติวิธีการ
มันไม่มากคิดเรื่องการกระทำ
สองสายตาร่างกายใกล้ชิดชัดเจน
มือหนึ่งไม่ปล่อยให้ว่างเว้นจับขาแยกร่างลูบสัมผัสรูปโค้งก้นงอนงามเหมือนปลอบร่างกายให้พร้อมกายรูดขึ้นถึงขาอ่อนเกรงกายก่อนจะลงน้ำหนักแน่นเหมือนหาที่ยึดเหนี่ยว
ริมีปากที่ลงจูบอีกครั้งใต้เรือนกาย
ก่อนที่มือที่หาที่ยึดเหนี่ยวร่างกายจะจับแกนกาย เข้าสอดแทรกกระแทกไม่ยั่งมือ
กับขนาดแกนกายใหญ่ที่ลุกฮือเล่นเอาดอกไม้อ้าปากเจ็บแทบขาดใจสั่นค้าง วิญญาณอกแอ่นแทบออกจากร่างเม็ดบัวชูตรงแข็งงามมันรู้สึกเหมือนถูกฉีกร่างเป็นสองส่วน
“ ฮ๊ะ! ”
เสียงหลงที่เอยค้างเล่นเอาคำฟังตามค้างอยากฟังเสียงคาให้ชัดมากกว่านี้
ในขนาดคนที่อกแอ่นนอนแยกร่างตอนนี้น้ำตาไหลพรากสั่นค้างเจ็บปวด
ชั่งแตกต่างจากคนด้านบนสุดโต้งที่มีความสุขมองร่างบางสุขสม
เหมือนชอบใจเสียความเจ็บกามรม อยากฟังมากกว่านี้แล้ว มากกว่านี้อีกและเพื่อเติมเต็มความสุขสมก็ต้องกรแกให้แรงมิดให้จม
ถึงจะได้ยินโยมเสียงงดงาม
“ อ๊ะ!......อ้า...........อ้า.............. ” ร่างงามที่ร้องเสียงหลงตามแรงกระแทก
พยายามกัดริมฝีปากแน่นเก็บเสียงแทบไม่อยู่เมื่อแกนกายแท่งใหญ่ที่ขยับแน่นอยู่ในโพลงของร่างกายขยับแรงกายไม่ปราณี
จังหวะกระแทกมันหนัก
มันเจ็บทุกครั้งบาดลึก
เมื่อถูกกระแทกเข้าสุดลึก
มันเจ็บสุดลึกแทบขาดใจ
สตินั้นไม่รับรู้อะไรอีก แม้น้ำตาดอกไม้จะไหลหนักแม้เลือดร่างกายจะไหลทะลัก
แต่เขานั้นก็ไม่รู้อะไรแล้วนอกจากร่างกายที่สุขสมและอยากฟังเสียงร้องคาระงมของร่างงามดอกไม้ระหงส์
ที่พยายามกัดปากแน่นหลั่งเลือดเก็บเสียงตนก็ไม่อาจทนเก็บจากแรงกระแทกหนักของแกนกาย
“ อึก!..........อ๊ะ.........อ๊า......... อ้าๆๆๆ...... ”
ร่างงามที่แสนทรมานเจ็บปวดทั้งกายและใจ
ทนให้เขากระแทกไปหวังอยากได้ข้อผูกมัดซึ้งอำนาจ แม้ร่างกายต้องแยกร่างก็ต้องยอม
เพราะไม่มีข้อต่อรองที่สมตัวสมราคา
ดอกไม้เอยเจ็บไหมให้เขากระแทก
เพื่อแลกอำนาจยิ่งใหญ่ในฟ้า เพื่อให้มีแขนขาพักดีข้างกายา เพื่อใช้บ่งการในใจตน
“ อ๊ะ! ”
เก็บสิ เก็บเสียงให้อยู่เก็บให้มิด
แล้วจงจับสลักไว้ในจิต ว่าความโหดร้ายในอำนาจที่ใช้ร่างกายไขว้คว้าด้วยร่างมันเป็นเช่นไรแล้วจงอย่าลืม
ดอกไม้งามที่ยังคงรับแรงกระแทกต่อไป
ริมฝีปากที่กัดเก็บเสียงไว้เลือดไหลออกไม่หยุดพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อไหลจากความรู้สึกเจ็บสุด
และช่องทางลักที่เลือดไหลติดแกนกายที่เข้าออกแสบสันเจ็บปวด
ทั้งน้ำลักน้ำเลือดตีผสมสองเนื้อกระพือร่วมสร้างจังหวะเพิ่มแรงกระแทกเข้าไปอีกนั้น
ดอกไม้งามนอนอ้าขาแยกเขย่าตามจังหวะที่สอดแทรกเจ็บแทบสติหลุด
“ ปี๊บ…ปี๊บ……ปี๊บ………อ๊ะ!………อ๊ะ…………เจ็บ……………เจ็บ…………………. ” เสียงที่ไม่อาจทนเก็บไว้กับร่างกาย
หากแต่อยากร้องระบายก็กลัวใครจะได้ยิน แต่มันก็เริ่มเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว
มือที่รวบอยู่เหนือหัวถูกกำแน่นเหมือนมันแทนโซคล้องมือเหมือนกลัวหาย
แต่ในขนาดก็สุขสมร่างกายจนต้องระบายเสียงคั่งนั้นอออกมา
“ อ๊า ซี๊ด อ๊า อ๊า ” ใบหน้าเชิด แกนกายขยับ ยิ้มออกมา
ขยับหลับตาเก็บเกี่ยวความรู้สึก และเพิ่มจังหวะลึกขยับกายหนักมากกว่าเดิม
“ อ๊า! ”
อ้าว เก็บเสียงไว้สิดอกไม้
เก็บให้ได้เก็บอยู่อย่าเล็ดลอด
อดทนให้เขารวบเอวกระแทกรอด
แล้งชีวิตเจ้าจะรอดเอง
จงอดทนความอับยศอีนิดเถิด
แล้วเจ้าจะได้ครอบครองหนามแหลมพุ่มดอกไม้เพิ่มอย่างที่ใจเจ้าต้องการ
ในที่สุดแรงกระแทกที่เพิ่มจังหวะแล้วจังหวะอีกให้กับร่างที่อ้าขาแยกที่ถูกเขย่าแรงเติมกำลังสุดฤทธิ์
ในที่สุดก็ถึงขีดสุดฤทธิ์
หากแต่ยิ่งสุดฤทธิ์แรงยิ่งมากเพิ่มขึ้นทวีแล้วกระแทกหนักอีกทีเหมือนทิ้งทวนก่อนจากไป
จนเสียงที่เก็บไว้กลั้นไว้ไม่อู่แล้ว
“ อือ ” ดวงตาเบิกอีกครั้ง
“ ซี๊ด อ่า ” ใบหน้าที่เชิดยิ้มยัก
“ อิ๊ด ……อ๊ะ………อ๊ะ ” อารมณ์ที่เก็บไม่ได้แล้วนั้นร้องผสม อือ
อ๊า สุขสมเจ็บปวด
“ ซี๊ด อ่า อ่า ”
“ อ๊ะ………อ๊ะๆ……เจ็บ………อ๊ะๆ……ไม่ ”
บอกแล้วไงให้เก็บเสียงไปสิ จะร้องออกมาทำไม
แล้วบอกเขาได้อะไรเจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือดอกไม้ว่าเขาไม่ได้ยิน
แม้แต่น้ำตาเจ้าเขาเองก็ไม่เห็นแล้ว
ปี๊บๆ เสียงเนื้อกระทบดังชัด
“ อ้า ”
“ ฮ๊ะ! ”
และในที่สุดแรงกระแทกสุดท้ายก็มาถึงสองจังหวะ
สองร่าง สองเสียงประสา อ้า อือ ความหมายต่างสุดลึก
หลั่งน้ำลักพร้อมกันความหมายต่างลึก
คือน้ำหนึ่งไหลหลั่งเจ็บปวดเพื่ออำนาจ
ส่วนอีกน้ำที่หลั่งล้นช่องทางสอดแกนกายนั้นหลั่งล้นเยอะออกมานั้น
สุขสมจิตใจเหลือเกิน
“ ซี๊ด! ”
“ อ๊ะ ”
“ อ่า/อ่า ” ปากค้างสองชายพร้อมกาย
แกนเกสรดอกไม้หลั่งสารตั้งตรงชูสุดอาการก่อนจะหอตัวเก็บลง
ในขนาดที่อีกคนก็ล้มพับหมดแรง ซบอกเม็ดบัวงามอกกระเพื่อมเจ็บปวด พร้อมกับสิ้นสติปิดหมวด
หมดสิ้นฤทธิ์ยากำลัง และทิ้งอนุสรณ์แกนกายหดหมดนั้นไว้เป็นเครื่องเตือนใจความเจ็บปวดที่ผ่านและย้ำในสำนึกว่า
เจ้าเป็นของข้าแล้ว
เหมือนมันอยากจะเกี่ยวไว้ไม่อยากให้ดอกไม้หายไปไหน
อยากตื่นร่วมกันไปและร่วมกันขยับร่างด้วยไซร์อีกครั้งหนึ่ง
“ ในที่สุดเขาก็เป็นของข้า ”
ริมฝีปากกลบเลือดเสาะยิ้มเปื้อนน้ำตาโรยรินใส
ประคองกอดมือที่รวบคายไปยังอ้าคงรับร่างใหญ่ทับร่างกาย
“ หึ ”
หัวเราะเสียงในลำคอสมเพชตัวหนองรับร่าง
เหมือนเด็กที่ดีใจน้ำตาไหลพรากได้รับตุ๊กตาของขวัญใหญ่มาในออมกอดชั่วข้ามคืน
เหมือนของขวัญที่สวรรค์มอบให้ไม่อาจคืน
และต้องยืนพรมจารีเข้าแลก